ความพยายามฟอกขาวให้ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ในกรณีถือหุ้นสื่อ ไอทีวี. แบบหมัดต่อหมัด ทั้งสื่อที่มักจะอ้างว่าน้ำดี และสื่อที่เคยเข้าคุก นักวิชาการ นักกฎหมาย ว่าที่ส.ส. ออกมาช่วยกัน ปั่นกระแสหน้าจอแก้ว สร้างประเด็นจนทำให้สังคมไขว้เขว
รู้ทั้งรู้ว่าหุ้น ไอทีวี.ยังคงสถานะการดำเนินกิจการบริษัท เพราะยังไม่ยกเลิกบริษัท หรือปิดบัญชี ผู้บริหารบริษัทยังรอผลคดีที่ศาลตัดสิน
ตามข้อกฎหมายคำแถลงของไอทีวี ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในปี 2559 อนุญาโต ชี้ขาดให้ ไอทีวี ชนะ สปน (หน่วยงานรัฐฯ ที่ยึดใบอนุญาตทีวี)
แปลว่า ไอทีวี.พร้อมที่จะเดินหน้า แต่ สปน ฉุดไว้ ด้วยกระบวนการศาล ทั้ง ศาลปกครองกลาง และศาลปกครองสูงสุด ดังนั้น
จะกล่าวหาว่า ไอทีวี หยุดกิจการ ไม่ได้
จะกล่าวหาว่า ไอทีวี ไม่มีรายได้ ไม่ได้
เพราะ ไอทีวี อยู่ในขั้นตอนทางศาล แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ทั้งๆที่ ไอทีวีมีศักยถาพที่จะทำสื่อ มีเงินทุนที่เพียงพอ จาก Intouch / Singtel (สิงคโปร์) / ธนาคารใหญ่ของไทย ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ITV พร้อมดำเนินกิจการตั้งแต่ ปี 2559 ตามวัตถุประสงค์ที่จดทะเบียนไว้
โดยทันที ที่คดีถึงที่สุด ชี้ขาดให้ ไอทีวี. ชนะคดีความเมื่อไหร่ ไอทีวี. สามารถทำกิจการสื่อได้ทันที ด้วยข้อได้เปรียบทางธุรกิจที่ไอทีวีมี...ไม่มีทางปิดกิจการเด็ดขาด
ตอกย้ำล่าสุด จาก นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ที่สรุปว่า สถานะของ บมจ.ไอทีวี ปัจจุบันมีสถานะ “ยังดำเนินกิจการอยู่” ไม่ได้มีกฎหมายกำหนดนิยามไว้ แต่เป็นการระบุเพื่อให้ทราบว่า เป็นนิติบุคคลที่ได้จดทะเบียนจัดตั้งตามกฎหมาย (พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535) ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นสถานะอื่นใด เช่น จดทะเบียนเลิก พิทักษ์ทรัพย์ ล้มละลาย หรือถูกขีดชื่อออกจากทะเบียน เป็นต้น
ดังนั้น สถานะ “ยังดำเนินกิจการอยู่” จึงเป็นการบอกว่า นิติบุคคลได้ถูกจัดตั้ง และมีตัวตนอยู่ตามกฎหมาย แต่ไม่ได้หมายความว่า นิติบุคคลนั้นมีการทำกิจการหรือประกอบกิจการทางการค้าใดในความเป็นจริงอยู่หรือไม่ ซึ่งหากมีการประกอบกิจการในลักษณะใด จะแสดงข้อมูลผลการดำเนินการและฐานะการเงินในงบการเงินนั้น
วงเล็บ 3 ของ มาตรา 98 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย การเป็นเจ้าของหรือ ถือหุ้น คำว่า "ถือ" ไม่ได้ระบุว่าถือแทน หรือถือแบบมีกรรมสิทธิ ฉะนั้น โอกาสรอดของ "พิธา" เมื่อถือ หุ้นสื่อ ในบริษัท ที่ทำสื่อ และยังไม่จดเลิก บริษัท การประชุม ผู้ถือหุ้น เป็นเรื่องขั้นตอน บริหาร ไม่เกี่ยว กับ องค์ประกอบความผิด ตามมาตรานี้
จากข้อมูลที่สมเหตุสมผล ก็เพียงพอที่จะตอกฝาโลงได้ชัดเจนว่า ความมีอยู่จริงในการถือหุ้นสื่อ ไอทีวี. 42,000 หุ้น การยืนยันประกอบกิจการตามวัตถุประสงค์บริษัท ไอทีวี. และจุดประสงค์ที่จดทะเบียนกับทางราชการ ที่กำหนดชัดเจนเกี่ยวกับการทำสื่อ ดังนั้นการที่ลิ่วล้อ ทั้งสื่อมวลชน ทั้งนักวิชาการ ทั้งว่าที่ ส.ส. ออกมาบิดเบือน เพื่อจะฟอกขาวอย่างไร จะไม่เป็นผลทั้งสืิ้น ยิ่งดินยิ่งเหมือน "ลิงแก้แห" เปิดแนวร่วมสีส้ม ออกมาอย่างชัดเจนอีกด้วย