ภาคปชช. หวั่น กัญชา เป็นยาเสพติด ถ้าจริง พร้อมต่อต้าน รัฐบาลใหม่ ท้าก้าวไกลโชว์ข้อมูลเหล้า บุหรี่ มีประโยชน์กว่า ถึงจะยอม

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ประกาศจุดยืนของเครือข่ายฯ ว่า กรณีที่พรรคก้าวไกลและพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลมีแผนนำกัญชาไปเป็นยาเสพติดนั้น ขอเรียนว่า กัญชา คือ ความมั่นคงทางยาที่คนยากจนและคนที่รักษาโรคในโรงพยาบาลไม่หายล้วนพึ่งพากัญชารักษาให้พ้นจากความทุกข์ทรมานของร่างกาย และช่วยให้ครอบครัวไม่ล่มสลายทางเศรษฐกิจจากค่ารักษาที่แสนแพง

“ความดัดจริตของพรรคก้าวไกล คือ ไม่พิจารณากัญชาจากข้อเท็จจริง แต่ดำเนินการภายใต้การช่วงชิงทางการเมือง และยินยอมหักกับประชาชนด้วยการเปลี่ยนหลักการของกัญชา ทั้งที่ก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกลรับ พ.ร.บ.กัญชาของประชาชนไปผลักดัน โดยเฉพาะ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ที่วันก่อนบอกว่า ต้องหลุดจากยาเสพติด แต่วันนี้พูดอีกอย่าง เพราะเหตุผลจะเอาชนะทางการเมือง” นายประสิทธิ์ชัยกล่าว

นายประสิทธิ์ชัยกล่าวว่า เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย จะยุติการชุมนุมหากพรรคก้าวไกลตอบคำถาม 2 ข้อ อย่างชัดเจนโดยปราศจากอคติ 1.พรรคก้าวไกลต้องทำข้อมูลเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของ สุรา บุหรี่ กัญชา โดยต้องนำงานวิจัยมาแสดงให้เห็นว่า ข้อเสียของสุรา บุหรี่ กัญชา คืออะไร อุบัติเหตุที่เกิดรายวันจากการดื่มสุราปีละกี่คน นอกจากนี้ ต้องนำงานวิจัยและตัวเลขการเกิดโรค และการตายทั้งจากสุรา บุหรี่ และกัญชา นำมาแสดงต่อสาธารณะ รวมถึงต้องนำงานวิจัยหรือกรณีศึกษาที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สุรา บุหรี่ และกัญชา รักษาโรคได้กี่โรคและมีผลปรากฎการรักษาอย่างชัดเจน มีกรณีตัวอย่างให้ประชาชนได้เห็นจริง

“ย้ำว่าข้อมูลทั้งหมดต้องเป็นวิทยาศาสตร์มีแหล่งอ้างอิงเชิงเอกสารหรือเชิงกรณีศึกษา อย่าเอาอคติมาเจือปน เมื่อนำข้อดีข้อเสียทั้ง 3 สิ่งมาเปรียบเทียบ จึงค่อยตัดสินว่า สิ่งใดควรเป็นยาเสพติดและไม่เป็นยาเสพติด และเมื่อมีหลักฐานพบว่า กัญชามีข้อเสียกว่าทั้งสุรา และบุหรี่ เครือข่ายฯ ยินดีสนับสนุนพรรคก้าวไกลให้นำกัญชาไปสู่ยาเสพติด” นายประสิทธิ์ชัยกล่าวและว่า 2.พรรคก้าวไกลต้องตอบคำถามผลกระทบของการสนับสนุน พ.ร.บ.สุราเสรี ว่า เมื่อออกกฎหมายนี้มา จำเป็นต้องประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการบังคับใช้กฎหมายหากผ่านการเห็นชอบ มี 2 เรื่องย่อยที่พรรคต้องตอบในกรณีนี้ คือ ผลกระทบทางสุขภาพและอุบัติเหตุที่จะเกิดจากการเข้าถึงสุรามากขึ้น และ เหตุใดพรรคจึงสนับสนุนทลายการผูกขาดสุรา แต่กลับนำกัญชาไปสู่เงื่อนไขเฉพาะ คือ ยาเสพติด ซึ่งมีคนจำนวนน้อยที่ผลิตกัญชาได้ ประชาชนมีหน้าที่หาเงินไปซื้อ ทั้งที่ภูมิปัญญาการใช้อยู่กับประชาชนมาหลายร้อยปี กัญชาจะกลายเป็นรูปแบบของเบียร์ในปัจจุบัน คือ ประชาชนใช้ได้ แต่ต้องหาเงินมาซื้อเอง

นายประสิทธิ์ชัยกล่าวว่า ให้คิดก่อนตอบ อย่าใช้นิสัยพูดวันนี้กับวันหน้าไม่เหมือนกัน เราสนับสนุนให้พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลตามเสียงของประชาชนอย่างเต็มที่ แต่เราไม่สามารถทำการสรุปไปว่า พรรคนี้ทำถูกต้องทุกเรื่อง แม้ว่าประชาชนทั่วประเทศจะโอบอุ้มพรรคก้าวไกล แต่เรายืนยันว่าจะต้องจัดการชุมนุมเพื่อให้สังคมรับรู้ความจริง อย่ากลัวที่จะพูดความจริง และอย่ากลัวที่จะพูดให้ตรงกัน ฉะนั้นหลังการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เครือข่ายฯ จะชุมนุมเพื่อให้พรรคก้าวไกลในฐานะรัฐบาลตัดสินเรื่องนี้จากข้อเท็จจริง ถ้ามี พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ควรจะตั้งชื่อเป็น พ.ร.บ.กัญชาก้าวหน้าบ้างดีหรือไม่

“อุบัติเหตุที่เกิดจากเมาแล้วขับตายปีละกี่ราย ที่พวกคุณชอบดื่มฉลองกันจนเป็นเหตุให้ว่าที่ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ของพรรคคุณถูกตรวจจับว่าเมาแล้วขับ เมื่อไม่นานมานี้ ถามจริง สุราก้าวหน้าของพวกคุณรักษาโรคได้กี่โรค เหตุใดไม่พูดถึงความร้ายของสุรา พูดแต่ด้านดีว่าทำลายทุนผูกขาด จุดยืนของพวกคุณคืออะไร สิ่งที่ตัวเองทำถูกต้อง สิ่งที่คนอื่นทำเลวร้ายเช่นนั้นหรือ” นายประสิทธิ์ชัยกล่าวและว่า เสนอให้พรรคก้าวไกลทำความเข้าใจนโยบายกัญชา เพื่อคนของพรรคจะได้พูดให้ตรงกัน

นายประสิทธิ์ชัยยังกล่าวถึงคำพูดของนายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ที่ระบุว่า เรื่องกัญชาสิ่งที่พรรคก้าวไกลได้ทำไปแล้วจะไม่กระทบต่อคนที่ได้รับใบอนุญาตไปแล้ว ในเรื่องของการจัดโซนนิ่ง ไม่ต้องมีใบอนุญาต ใครที่มีใบอนุญาตและอยู่นอกโซนนิ่ง ยังสามารถขายกัญชาได้ตามปกติ ดังนั้นขอให้มั่นใจว่า การที่พรรคก้าวไกลเอากลับมาเป็นยาเสพติดจะไม่กระทบต่อคนที่ได้รับใบอนุญาตไปแล้ว แต่การใช้วิธีการแบบนี้จะทำให้คนที่ลักลอบขาย คนที่ไม่มีใบอนุญาตจะถูกกกฎหมายบังคับใช้ ซึ่งในอีกด้านหนึ่งจะทำให้กัญชาที่ไม่มีคุณภาพลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศถูกทำลายลงไป เพื่อปูทางไปสู่กัญชาไทยที่มีคุณภาพต่อไปนั้น ว่า 1.ไม่เห็นด้วยกับการที่นายรังสิมันต์ บอกว่าหากจัดโซนนิ่งแล้ว ในบริเวณโซนนิ่งไม่ต้องมีใบอนุญาต หากคิดแบบนี้ มันอันตราย เพราะหากไม่มีระบบใบอนุญาตคุมมันจะกลายเป็นพื้นที่ซึ่งยาเสพติดชนิดอื่นเข้ามาปะปนอย่างแน่นอน มันจะกลายเป็นแหล่งมั่วสุม สำหรับตนต้องมีระบบใบอนุญาตทั้งหมด ไม่ว่าการปลูก การขาย การผลิต กัญชาทุกต้นล้วนอยู่ภายใต้ใบอนุญาต

2.การที่บอกว่านำกลับไปสู่ยาเสพติดแล้วจะทำให้คนที่ลักลอบขาย ลักลอบนำเข้า จะไม่สามารถกระทำได้ คำอธิบายนี้เป็นคำอธิบายซึ่งไม่รับรู้สภาพความเป็นจริงว่าสถานการณ์กัญชาตอนนี้อยู่อย่างไร ถ้าคิดว่าพอเอากัญชาไปสู่ยาเสพติดแล้ว จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ เป็นการพูดบนหลักการที่ไม่สอดคล้องกับความจริง ตอนนี้คนที่ไม่มีใบอนุญาตก็เปิดร้านขายไม่ได้ ผิดกฎหมาย การนำเข้าตอนนี้คือ ลักลอบนำเข้าไม่ได้นำเข้าตามกระบวนการอย่างถูกต้อง การนำกัญชาไปสู่ยาเสพติดจึงแก้ปัญหาที่นายรังสิมันต์บอกไม่ได้

3.นายรังสิมันต์บอกว่า เมื่อนำกัญชากลับสู่ยาเสพติดแล้วคนที่มีใบอนุญาตไม่ต้องกลัว สามารถดำเนินการต่อได้ แต่หลังจากนี้จะกลายเป็นว่าทุกร้านที่กำลังเปิดร้านขายกัญชาคือคุณกำลังขายยาเสพติด และถ้าหลังจากหมดใบอนุญาตการขอต่อใบอนุญาตจะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติทางแพทย์ ทางวิจัย หรือ กำหนดคุณสมบัติเฉพาะ เมื่อถึงเวลานั้นร้านต่างๆ ที่ใบอนุญาตหมดอายุยังจะต่อใบอนุญาตได้อยู่หรือไม่

“สิ่งที่พรรคก้าวไกลพยายามอธิบายมาตลอดว่า ตัวเองจะเปิดให้ประชาชนใช้เมื่อนำกลับไปสู่ยาเสพติด พิจารณาให้ดีนะครับว่าพรรคก้าวไกลย้ำเรื่องการใช้ว่าประชาชนจะใช้ได้ แต่การนำกลับไปสู่ยาเสพติดจะทำให้ประชาชนไม่สามารถปลูกได้ นี่คือการทำลายสิทธิทางยาของประชาชน การนำไปสู่กติกาเฉพาะจะทำให้มีคนบางกลุ่มเท่านั้นที่ปลูกกัญชาได้ ส่วนประชาชนต้องหาเงินมาซื้อเอา เหมือนวงการเบียร์ ซึ่งพรรคก้าวไกลบอกว่าต้องทำลายทุนผูกขาด แต่พอกัญชากลับนำไปสู่เงื่อนไขให้ผูกขาด” นายประสิทธิ์ชัยกล่าว

นายประสิทธิ์ชัยกล่าวต่อว่า กรณีกัญชาทางการแพทย์ พรรคก้าวไกลยังเสนอให้แพทย์แผนปัจจุบันเป็นคนจ่าย นี่เป็นการกำหนดที่ไม่อยู่บนข้อเท็จจริง สิ่งที่พรรคก้าวไกลต้องตระหนักคือในรอบ 50 ปี กลุ่มคนที่มีภูมิปัญญาใช้กัญชา ไม่ใช่แพทย์แผนปัจจุบัน ทั่วโลกกำลังเปิดนโยบายกัญชา โลกก้าวไปข้างหน้า แต่พรรคก้าวไกลจะได้รับการจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นผู้นำกัญชากลับสู่ยาเสพติด การต่อสู้ครั้งนี้จะแผ่ขยายไปยังนานาชาติ เพราะทั่วโลกเริ่มตระหนักถึงความมั่นคงทางยาที่เป็นสิทธิของประชาชน