‘ป้อม-หนู’ หม่ำข้าว
ส่งสัญญาณไม่ใช่ ‘ของตาย’
.
เป็นปฏิกิริยาตอบสนองทันที ภายหลังจากที่ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ทุบโต๊ะขอถอนวาระโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ภายหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถูกแบ่งเป็นสองซีกระหว่างฝ่ายที่เห็นด้วยกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย
.
ฝ่ายเห็นด้วยให้เห็นชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐของ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พรรคภูมิใจไทยของ ‘เสี่ยหนู’ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
.
ฝ่ายไม่เห็นด้วย ประกอบด้วย รัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ รวมไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเอกชนยักษ์ใหญ่ด้านคมนาคมขนส่ง ซึ่งเป็นคู่แข่งกับผู้ชนะการประมูล
.
หรือแม้แต่ ‘เนติบริกร’ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ที่มีข่าวว่า อยากให้เห็นชอบไปก่อน แต่ยังไม่มีเซ็นสัญญา พยายามฉายข้อกฎหมายให้เห็นว่าสามารถทำได้ แต่ ‘บิ๊กตู่’ เลือกที่จะถอนวาระออก โดยให้เหตุผลว่า ยังมีข้อถกเถียงกัน
.
ปฏิกิริยาที่ว่า คือ ปฏิกิริยาของพรรคพลังประชารัฐภายใต้การนำของ ‘บิ๊กป้อม’ และปฏิกิริยาของพรรคภูมิใจไทยภายใต้การนำของ ‘เสี่ยหนู’ หลังจากมีภาพนั่งรับประทานอาหารกลางวัน หลังสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาวาระดังกล่าวเพียงวันเดียวให้หลัง
.
ปฏิกิริยานี้ เป็นปฏิกิริยาที่เหมือนต้องการจะส่งสารไปถึงคนบางคนที่พยายามจะขัดขวางโครงการดังกล่าว ทั้งที่แสดงออกมา ทั้งที่อยู่เบื้องหลัง โดยเฉพาะ ‘บิ๊กตู่’ ที่ตัดสินใจให้ถอนวาระ
.
‘บิ๊กตู่’ คือ คนที่รู้ว่า พรรคพลังประชารัฐและพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนในเรื่องนี้ เป็น 1 ในโครงการสำคัญ ที่พรรคร่วมรัฐบาลตั้งใจจะผลักดัน
.
การถอนวาระออก ทำให้โครงการเป็นหมัน ไม่ทันพิจารณาในรัฐบาลนี้ จึงเหมือนตัดรอนน้ำใจ
.
เหตุผลเพียงเพราะมีรัฐมนตรีคนอื่นคัดค้านอาจฟังได้ เพียงแต่ว่า ‘บิ๊กตู่’ รู้อยู่เต็มอกว่า คัดค้านเพราะเป็นห่วงเรื่องข้อกฎหมาย หรือเป็นเพราะมีใครนอกห้องประชุมคณะรัฐมนตรีขอให้ช่วยคัดค้าน
.
‘บิ๊กตู่’ ยังรู้ด้วยว่า เรื่องนี้มันมีเหตุผลทางการเมืองในแง่ของการคัดค้านเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยไปอ้างข้อกฎหมายและคดีในชั้นศาลปกครองสูงสุด
.
การตัดสินใจถอน จึงกระทบกับความรู้สึกของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะกับฝ่ายที่เห็นด้วยให้อนุมัติ
.
พรรคภูมิใจไทยเอง ย่อมต้องรู้สึกกว่าใคร เพราะเมื่อไม่กี่วันมานี้ ‘เสี่ยโอ๋’ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เพิ่งถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เป็นการสั่งหยุดในช่วงที่ ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์’ กำลังเปิดศึกใส่พรรคภูมิใจไทย จนทำให้สังคมตั้งข้อสังเกตว่า มีเบื้องหลังอย่างอื่นหรือไม่
.
เพราะคนข้างตัวของ ‘บิ๊กตู่’ เอง สนิทสนมกับ ‘ชูวิทย์’ มันยากที่จะไม่ให้คิดว่า ไม่ได้เจาะจงจะเล่นงานพรรคภูมิใจไทย
.
เมื่อถูกกระทำถึง 2 ครั้ง ความรู้สึกมันย่อมเหินห่าง โดยเฉพาะกับพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นพรรคที่ทำให้เสียงระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้านมีช่องว่างมากขึ้น เคียงข้าง ‘บิ๊กตู่’ มาตลอด 4 ปี แต่กลับต้องมาเจออะไรแบบนี้
.
และมันไม่แปลกหากจะนั่งร่วมรับประทานอาหารกับ ‘บิ๊กป้อม’ คนที่ถูกมองว่าทำเพื่อน้องมาตลอด แต่สุดท้ายกลับเหมือนจะถูกน้องกระทำ
.
เพราะพรรคพลังประชารัฐและพรรคภูมิใจไทยตกอยู่ในภาวะเดียวคือ ‘คนถูกกระทำ’ ภาพนี้จึงเกิดขึ้น
.
คนที่ทำให้ภาพนี้เกิดขึ้น ไม่ใช่ฝีมือใครแต่เป็น ‘บิ๊กตู่’ เอง
.
มันเกิดขึ้น ก็เพราะที่ผ่านมาชอบมองว่า พรรคร่วมรัฐบาลที่อยู่ด้วยกันทุกวันนี้ไม่กล้าไปไหน เป็น ‘ของตาย’
.
โดยลืมไปว่า สถานการณ์ตัวเองไม่สามารถมีของตายได้ แล้วยิ่งต้องพึ่งเพื่อนด้วย
.
===