'พท.’ จี้ 'บิ๊กตู่’ กรณีสารวัตรคลั่ง เหตุปฎิรูปตำรวจเหลว สังคมป่วยวิกฤต

'พท.’ จี้ 'บิ๊กตู่’ ต้องมีคำตอบกรณีสารวัตรคลั่ง เหตุปฎิรูปตำรวจเหลว สังคมป่วยวิกฤตต้องมีมืออาชีพแก้

เมื่อวันที่ 16 มี.ค. น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรค และรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขอการแสดงความเสียใจกับครอบครัวสารวัตรที่เสียชีวิตวานนี้ (15 มี.ค.) ทั้งนี้ได้มีการเผยแพร่ภาพภายในบ้านสารวัตรพบอุปกรณ์คล้ายกับที่ใช้ในการเสพยาและกัญชา พร้อมทั้งปรากฎคลิปภาพสารวัตรคนดังกล่าวขณะอยู่ในอาการคุ้มคลั่ง มีการกล่าวอ้างถึงการค้ายาเสพติดที่ทำให้ลูกหลานติดยา แม้ในขณะนั้นสติสัมปชัญญะจะไม่สมบูรณ์ด้วยเหตุผลอื่นใด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าการระบาดของยาเสพติดที่มีมาอย่างต่อเนื่องหลายปีโดยไม่เอาจริงเอาจังจัดการให้สิ้นซากส่งผลร้ายแรงจนทำให้สังคมป่วยหนัก กระทบต่อสถาบันครอบครัว ประเทศชาติ และอนาคตของชาติไม่มีที่สิ้นสุด

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า กรณีของสารวัตรเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากกรณีก่อนหน้าที่ไม่มีการจัดการแก้ไข ในระยะเพียง 3 ปี เกิดเหตุกราดยิงจากตำรวจหรือทหาร มากกว่า 5 ครั้ง เช่น จ่าคลั่งกราดยิงโคราช เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 63, เหตุกราดยิงรพ.สนาม เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 64, เหตุกราดยิงวิทยาลัยการทัพบก เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 64, อดีตพลทหารยิงผู้โดยสารบนรถบัส เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 65,โศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 65 และล่าสุดสารวัตรคลั่งเมื่อวันที่ 14 มี.ค.66 ความเดิมยังไม่ทันหาย ปัญหาใหม่ที่ไร้การควบคุมอย่างกัญชาที่มีขายอย่างแพร่หลายก็ยังไม่ถูกแก้

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า ทั้งหมดคือความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เมื่อรวมเข้ากับกัญชาเสรี ที่ถูกเสนอโดยพรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทย (ภท.) ที่ยังคงภูมิใจกับกัญชาที่ไร้มาตรการจำกัดการใช้อย่างถูกต้อง ยิ่งทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น ยังไม่รวมกับปัญหาโครงสร้างด้านการป้องกัน การแก้ไข การบำบัด และการจำกัดยาเสพติดให้หมดไปจากสังคม การปฏิรูปตำรวจที่ล้มเหลว หากปล่อยไว้ และยังให้โอกาสพล.อ.ประยุทธ์กลับมาอีก คงยากที่อนาคตของชาติจะเป็นไปในทิศทางที่ดีได้

น.ส.ลิณธิภรณ์ ยังอีกว่า มีคำถามจากสังคมว่า ตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่ปกป้อง ดูแลประชาชน และเป็นผู้ถือกฎหมาย เหตุใดจึงมีการเข้าถึงยาเสพติดได้ง่าย และยังมีเกิดสถานการณ์ “แกะดำ” บ่อยครั้ง ตำรวจที่กระทำการอุกอาจในหลายกรณี มีความคับแค้นใจ เกิดภาวะกดดันและเครียด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากความรู้สึกไม่ยุติธรรมในการโยกย้ายตำแหน่งหน้าที่การงาน หรือมีความเกี่ยวพันกับการส่งส่วยกันใช่หรือไม่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ กำกับดูแล มีการตอบสนองต่อเหตุการณ์มากน้อยแค่ไหน พล.อ.ประยุทธ์ต้องมีคำตอบให้กับเรื่องนี้ในฐานะที่อาสาเข้ามาบริหารประเทศ

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นหากดำเนินการโดยมืออาชีพอย่างพรรค พท. ที่มีดีเอ็นเอปราบปรามยาเสพติดจากพรรคไทยรักไทย (ทรท.) เข้ามาจัดการป้องกัน แก้ไขและบำบัดผู้ติดยาเสพติด ความสูญเสียคงไม่ลุกลามบานปลาย หรือแม้แต่ปัญหาการทุจริตจ่ายใต้โต๊ะส่งส่วยคงไม่ระบาดหนัก หากนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ป้องกันปัญหาคอร์รัปชั่นในวงราชการได้ตั้งแต่ต้นทาง รวมไปถึงการปฏิรูปทหารให้เป็นทหารอาชีพ และทันสมัย ซึ่งทั้งหมดพรรค พท. ได้เตรียมวิธีการเอาไว้แล้ว

“นับตั้งแต่เกิดโศกนาฏกรรมหลายกรณี หลายปีที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ที่ใกล้จะหมดวาระ พล.อ.ประยุทธ์ยังคงเมินเฉย ละเลยปัญหา อย่างนี้หรือจะกลับมาขอทำต่อ ทำอีก เพราะแม้แต่ความรู้สึกร่วมไปกับความเดือดร้อนสูญเสียของพี่น้องประชาชนยังแทบจะไม่มี จะเอาความสามารถเท่าที่มี ทำได้อย่างไรไหว” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว.