รทสช.ไม่มีผลงาน
สวมบท ‘มิสเตอร์เคลม’
.
สวมบท ‘มิสเตอร์เคลม’ เสียแล้ว สำหรับ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รวมไปถึง ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’
.
ด้วยความที่ตัวเองแยกตัวออกมาจาก ‘พรรคพลังประชารัฐ’ มาสร้างพรรคใหม่อย่าง ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ซึ่งเป็นพรรคป้ายแดง ไม่เคยมีผลงานมาก่อน ทำให้ต้องไปเอานโยบายต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จของพรรคต่างๆ มาใช้หาเสียง หรือปรับปรุงเป็นเวอร์ชั่นตัวเอง
.
อย่างครั้งก่อนพรรคพลังประชารัฐของ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ชิงจังหวะตัดหน้า ชูนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรประชารัฐ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐในยุคที่ยังมี ‘บิ๊กตู่’ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ใช้เป็นนโยบายหลักในการหาเสียง มาเพิ่มวงเงินเป็น 700 บาท ทำให้ ‘บิ๊กตู่’ และพรรครวมไทยสร้างชาติต้องแก้เกม
.
โดยในช่วงแรกมีการเหน็บลอยๆ ว่า เพิ่มวงเงินกันแบบนี้จะใช้งบประมาณจากไหน แต่เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง หลังจากนั้นพรรครวมไทยสร้างชาติ ไปเกทับที่เวทีปราศรัย จ.นครราชสีมา เพิ่มวงเงินเป็น 1,000 บาท พร้อมกับเคลมว่า ทุกนโยบายในรัฐบาลย่อมต้องผ่านการอนุมัติจากตัวเองในฐานะนายกรัฐมนตรี
.
ถัดจากนั้นไม่นาน ‘ทิพานัน ศิริชนะ’ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาเคลมนโยบาย ‘บัตรทอง’ ว่า ยุคของ ‘บิ๊กตู่’ ได้มีการอัพเกรดเป็น ‘บัตรทองพรีเมียม’ โดยการเพิ่มสิทธิต่างๆ ทั้งที่เรื่องดังกล่าวเป็นงานของกระทรวงสาธารณสุข ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ‘เสี่ยหนู’ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
.
เรียกว่า เอามาต่อยอดแล้วเคลมเป็นนโยบายตัวเองหมด
.
ล่าสุดการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ‘เสี่ยหนู’ ในฐานะเจ้ากระทรวงสาธารณสุข ชงเรื่องการเพิ่มค่าป่วยการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. จากเดิมได้รับ 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท เข้าที่ประชุม ซึ่งเรื่องนี้ ‘เสี่ยหนู’ ผลักดันมาโดยตลอด จนได้รับขนานนามว่า เป็นตัวชนให้ อสม.
.
แต่ปรากฏว่า หลังการประชุม ครม. บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลต่างพาเคลมผลงานนี้ ไม่ว่าจะเป็น ‘เสี่ยตี๋’ สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่รีบโพสต์เฟซบุ๊กประหนึ่งตัวเองเป็นคนผลักดัน หรือ พรรครวมไทยสร้างชาติที่ไปโพสต์เฟซบุ๊กว่า ‘บิ๊กตู่’ เป็นคนทำเรื่องนี้
.
ทั้งที่ทุกคนรู้ดีว่า ที่ผ่านมา ‘เสี่ยหนู’ และพรรคภูมิใจไทยเป็นคนผลักดันมาโดยตลอด โดนสกัด โดนอะไรมามากมายก่อนหน้านี้
.
แต่พอใกล้เลือกตั้ง เรื่องนี้สามารถนำไปต่อยอดในสนามได้ กลับพากันแย่งชิงตีกินว่า ตัวเองมีส่วนผลักดันกันหมด
.
โดยเฉพาะพรรครวมไทยสร้างชาติที่บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลเริ่มเขม่นกับบท ‘มิสเตอร์เคลม’ โดยใช้ความมีอำนาจสูงสุดของนายกรัฐมนตรีเป็นข้ออ้างในการอนุมัติ
.
สร้างความไม่พอใจกันในหมู่พรรคร่วมรัฐบาลอีกเรื่อง ในขณะที่ก่อนหน้าก็มีข่าวลือมาตลอดว่า อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการทุบคนนั้นคนนี้ เพื่อมัดให้ไม่กล้าตีจากตัวเอง
.
แต่คงลืมไปว่า ลำพังพระเดชไม่สามารถจะมัดหรือรักษาใจคนได้ แต่ต้องใช้พระคุณเป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อกัน
.
เล่นกันแบบนี้ ถึงคราวลำบากจะไม่เหลือใครเอา
===