รมว.พิพัฒน์ เปิดงานสมโภชวันหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ครบรอบ 441 ปี ชาตกาล จ.สงขลา
วันที่ 3 มีนาคม 2566 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) เป็นประธานกล่าวเปิดงานสมโภช "วันหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ครบรอบ 441 ปี ชาตกาล" ประจำปี 2566 เพื่อเป็นการสักการะบูชา ในคุณูปการของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดและแสดงความกตัญญู รวมทั้งเป็นสิริมงคลแก่ศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดด้วย โดยมีพระราชวรเวที เจ้าคณะจังหวัดสงขลา เจ้าอาวาสพระอารามหลวงวัดโคกสมานคุณ ,พระครูปุญญาพิศาล กตปุญโญ เจ้าคณะอำเภอสทิงพระ เจ้าอาวาสวัดพะโคะ, นายเอกชัย เลิศวิบูลย์ลักษณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ,นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดีหลวง และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วม ณ วัดต้นเลียบ หมู่ที่ 1 ตำบลดีหลวง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา
รมว.พิพัฒน์ กล่าวว่า วัดต้นเลียบนับว่าเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ เพราะเมื่อ 441 ปีก่อน ตาหู ได้นำรกของเด็กชายปู หรือ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดมาฝังไว้ที่โคนต้นเลียบแห่งนี้ จึงถือว่าวัดต้นเลียบเป็นบ้านเกิดของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด พระเกจิอาจารย์ในตำนานที่ชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากให้ความเลื่อมใสศรัทธา โดยเฉพาะในพื้นที่บริเวณภาคใต้ของไทย ตั้งแต่พัทลุง สงขลา ปัตตานี เลยไปถึงไทรบุรี ในประเทศมาเลเซีย เพราะนอกจากท่านจะเป็นผู้มีคุณูปการต่อการเผยแพร่พระพุทธศาสนา และมีบทบาทนำในการปกป้องประชาชนจากการปล้นของโจรสลัดมลายูแล้ว ท่านยังเป็นผู้นำทางวัฒนธรรม ที่ส่งผ่านมาสู่ชนรุ่นหลัง ให้ได้เรียนรู้เรื่องราวในท้องถิ่น มีสิ่งยึดเหนี่ยวร่วมกัน ทำให้ท้องถิ่นมีความเป็นหนึ่งเดียว เป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้านเมื่อได้รับความทุกข์ยาก เป็นจุดเชื่อมโยงให้คนในท้องถิ่นมีความแข็งแกร่งที่จะตั้งรับแรงปะทะใหม่ๆ จากภายนอกในอนาคตได้อย่างมีสติ และไม่หลงทาง ไปกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็วเฉกเช่นในปัจจุบัน
“ผมขอแสดงความชื่นชมวิสาหกิจชุมชนตามรอยบ้านเกิดหลวงปู่ทวด ที่ได้พัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน กิจกรรมครั้งนี้ ถือเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่เป็นการต่อยอดและตอกย้ำในการเสนอให้ “งานสมโภชวันหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” บรรจุในปฏิทินท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลา ให้เป็นงานภาพรวมใหญ่ของจังหวัด ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และครั้งนี้ถือเป็นการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ บูรณาการร่วมกันทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจในการจัดงาน ส่งผลดีต่อประชาชน ชาวจังหวัดสงขลา เพราะทำให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป เดินทางเข้ามาร่วมกิจกรรมตลอด 4 วันนี้ อย่างคุ้มค่าคุ้มเวลาและได้รับความสุข อิ่มบุญ อิ่มใจอย่างเต็มที่ อันจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงจูงใจให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลาเพิ่มมากขึ้น สู่การฟื้นเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลาและประเทศไทยโดยรวม “ด้วยการท่องเที่ยว” ในที่สุด” รมว.พิพัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย